พบดาวเคราะห์น้อยจากเมฆออร์ต
15 พ.ค. 2559 รายงานโดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com)
นักดาราศาสตร์พบวัตถุดึกดำบรรพ์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะ
มันคล้ายดาวเคราะห์น้อย
แต่มีเส้นทางโคจรแบบดาวหาง
แล้วมันก็คล้ายจะมีหาง
แต่ก็น้อยเกินกว่าจะเป็นดาวหาง
วัตถุดวงนี้คือ
ซี/2014 เอส 3 (แพนสตารรส์) ค้นพบในปี
2557
โดยกล้องแพน-สตารรส์
1
ในขณะนั้นอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณสองเท่าของระยะทางระหว่างดวงอาทิตย์ถึงโลก
โดยถูกระบุชนิดว่าเป็นดาวหางที่มีอันตรกิริยาอ่อน
มีวงโคจรรีมาก
โคจรรอบดวงอาทิตย์รอบหนึ่งใช้เวลาประมาณ
860
ปี
วงโคจรที่รียาวเช่นนี้บ่งบอกว่ามีต้นกำเนิดมาจาก
เมฆออร์ต และเพิ่งถูกแรงรบกวนจากภายนอกเบี่ยงวงโคจรให้เข้ามาในระบบสุริยะชั้นในได้
เมฆออร์ต
เป็นบริเวณรอบนอกของระบบสุริยะ
เป็นที่อยู่ของวัตถุประเภทน้ำแข็งจำนวนมากซึ่งเป็นวัตถุต้นกำเนิดดาวหางคาบยาว
บางคนจึงเรียกเมฆออร์ตว่าดงดาวหางออร์ต
การที่
ซี/2014
เอส
3
(แพนสตารรส์)
มีทิศทางมาจากเมฆออร์ต
ก็น่าจะเชื่อว่าเป็นดาวหาง
แต่นักดาราศาสตร์สังเกตว่าวัตถุดวงนี้ออกจะไม่ธรรมดา
เพราะมีสมบัติหลายอย่างไม่เหมือน
ดาวหางคาบยาวทั่วไปที่เข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์
การวัดสเปกตรัมพบว่ามีสเปกตรัมคล้ายดาวเคราะห์น้อยชนิดเอส
ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้อยที่พบได้ทั่วไปบริเวณ
แถบดาวเคราะห์น้อยหลัก
และดูเหมือนว่าเนื้อของวัตถุดวงนี้ผ่านการแปรสภาพมาเพียงน้อยนิด
แสดงว่าต้องผ่านการแช่แข็งมาเป็นเวลานานมาก
อย่างไรก็ตามยังมีความคล้ายดาวหางอีกอย่างหนึ่งคือ
มีการระเหิดของน้ำแข็งบ้าง
แต่เกิดขึ้นในระดับอ่อนกว่าที่เกิดกับดาวหางคาบยาวที่อยู่ระยะห่างจากดวงอาทิตย์เท่ากันนี้ถึงราวหนึ่งล้านเท่า
คาเรน มีช จากสถาบันดาราศาสตร์
มหาวิทยาลัยฮาวาย
สันนิษฐานว่า
ซี/2014
เอส
3
(แพนสตารรส์)
มีต้นกำเนิดในยุคเดียวกับที่โลกกำเนิดขึ้นมา
แต่ได้ย้ายวงโคจรออกไปไกลถึงเมฆออร์ต
แล้วต่อมาจึงได้เบี่ยงทิศทางเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์อีกครั้ง
นับว่าเป็นวัตถุหินจากเมฆออร์ตก้อนแรกที่มีการค้นพบ
หากเป็นเช่นนั้นจริง
วัตถุดวงนี้จะมีความสำคัญเยี่ยงวัตถุโบราณที่เก็บงำความลับของอดีตกาลเกี่ยวกับต้นกำเนิดระบบสุริยะ
เรารู้จักดาวเคราะห์น้อยมากมาย
แต่ดาวเคราะห์น้อยทั้งหมดอยู่ในเขตระบบสุริยะชั้นใน
จึงถูกแสงอาทิตย์แผดเผามาเป็นเวลานับพันล้านปี
ส่วนวัตถุดวงนี้ได้ไปอยู่ในเมฆออร์ตตั้งแต่ยุคแรก
จึงเป็นเหมือนการหยุดเวลาไว้
เรียกได้ว่าเป็นดาวเคราะห์น้อยดิบ
สมบัติต่างๆ
ในตัวมันจึงถูกเก็บรักษาไว้เหมือนเพิ่งเริ่มเกิด
วัตถุตั้งต้นที่ก่อกำเนิดดาวเคราะห์ต่าง
ๆ
รวมถึงโลกอาจมีลักษณะแบบเดียวกับ
ซี/2014
เอส
3
(แพนสตารรส์)
ด้วยเหตุนี้การศึกษาวัตถุดวงนี้อาจให้เบาะแสเกี่ยวกับต้นกำเนิดของระบบสุริยะได้มากกว่าการศึกษาดาวเคราะห์น้อย
นักดาราศาสตร์พบวัตถุดึกดำบรรพ์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะ
มันคล้ายดาวเคราะห์น้อย
แต่มีเส้นทางโคจรแบบดาวหาง
แล้วมันก็คล้ายจะมีหาง
แต่ก็น้อยเกินกว่าจะเป็นดาวหาง
วัตถุดวงนี้คือ
ซี/2014
เอส
3
(แพนสตารรส์)
ค้นพบในปี
2557
โดยกล้องแพน-สตารรส์
1
ในขณะนั้นอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณสองเท่าของระยะทางระหว่างดวงอาทิตย์ถึงโลก
โดยถูกระบุชนิดว่าเป็นดาวหางที่มีอันตรกิริยาอ่อน
มีวงโคจรรีมาก
โคจรรอบดวงอาทิตย์รอบหนึ่งใช้เวลาประมาณ
860
ปี
วงโคจรที่รียาวเช่นนี้บ่งบอกว่ามีต้นกำเนิดมาจาก
เมฆออร์ต และเพิ่งถูกแรงรบกวนจากภายนอกเบี่ยงวงโคจรให้เข้ามาในระบบสุริยะชั้นในได้
เมฆออร์ต
เป็นบริเวณรอบนอกของระบบสุริยะ
เป็นที่อยู่ของวัตถุประเภทน้ำแข็งจำนวนมากซึ่งเป็นวัตถุต้นกำเนิดดาวหางคาบยาว
บางคนจึงเรียกเมฆออร์ตว่าดงดาวหางออร์ต
การที่
ซี/2014
เอส
3
(แพนสตารรส์)
มีทิศทางมาจากเมฆออร์ต
ก็น่าจะเชื่อว่าเป็นดาวหาง
แต่นักดาราศาสตร์สังเกตว่าวัตถุดวงนี้ออกจะไม่ธรรมดา
เพราะมีสมบัติหลายอย่างไม่เหมือน
ดาวหางคาบยาวทั่วไปที่เข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์
การวัดสเปกตรัมพบว่ามีสเปกตรัมคล้ายดาวเคราะห์น้อยชนิดเอส
ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้อยที่พบได้ทั่วไปบริเวณ
แถบดาวเคราะห์น้อยหลัก
และดูเหมือนว่าเนื้อของวัตถุดวงนี้ผ่านการแปรสภาพมาเพียงน้อยนิด
แสดงว่าต้องผ่านการแช่แข็งมาเป็นเวลานานมาก
อย่างไรก็ตามยังมีความคล้ายดาวหางอีกอย่างหนึ่งคือ
มีการระเหิดของน้ำแข็งบ้าง
แต่เกิดขึ้นในระดับอ่อนกว่าที่เกิดกับดาวหางคาบยาวที่อยู่ระยะห่างจากดวงอาทิตย์เท่ากันนี้ถึงราวหนึ่งล้านเท่า
คาเรน มีช จากสถาบันดาราศาสตร์
มหาวิทยาลัยฮาวาย
สันนิษฐานว่า
ซี/2014
เอส
3
(แพนสตารรส์)
มีต้นกำเนิดในยุคเดียวกับที่โลกกำเนิดขึ้นมา
แต่ได้ย้ายวงโคจรออกไปไกลถึงเมฆออร์ต
แล้วต่อมาจึงได้เบี่ยงทิศทางเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์อีกครั้ง
นับว่าเป็นวัตถุหินจากเมฆออร์ตก้อนแรกที่มีการค้นพบ
หากเป็นเช่นนั้นจริง
วัตถุดวงนี้จะมีความสำคัญเยี่ยงวัตถุโบราณที่เก็บงำความลับของอดีตกาลเกี่ยวกับต้นกำเนิดระบบสุริยะ
เรารู้จักดาว
แต่ดาวเคราะห์น้อยทั้งหมดอยู่ในเขตระบบสุริยะชั้นใน
จึงถูกแสงอาทิตย์แผดเผามาเป็นเวลานับพันล้านปี
ส่วนวัตถุดวงนี้ได้ไปอยู่ในเมฆออร์ตตั้งแต่ยุคแรก
จึงเป็นเหมือนการหยุดเวลาไว้
เรียกได้ว่าเป็นดาวเคราะห์น้อยดิบ
สมบัติต่างๆ
ในตัวมันจึงถูกเก็บรักษาไว้เหมือนเพิ่งเริ่มเกิด
วัตถุตั้งต้นที่ก่อกำเนิดดาวเคราะห์ต่าง
ๆ
รวมถึงโลกอาจมีลักษณะแบบเดียวกับ
ซี/2014
เอส
3
(แพนสตารรส์)
ด้วยเหตุนี้การศึกษาวัตถุดวงนี้อาจให้เบาะแสเกี่ยวกับต้นกำเนิดของระบบสุริยะได้มากกว่าการศึกษาดาวเคราะห์น้อย
เคราะห์น้อยมากมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น